มาตรา ๕๙ ในกรณีที่ผู้มีสิทธิครอบครองที่ดิน (ไม่ว่ามี สค.๑ ใบเหยียบย่ำ ใบตราจอง หรือไม่มีก็ตาม ) มาขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นการเฉพาะราย ไม่ว่าจะได้มีประกาศของรัฐมนตรีตามมาตรา ๕๘ แล้วหรือไม่ก็ตาม เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นสมควร ให้ดำเนินการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แล้วแต่กรณี ได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ประมวลกฎหมายนี้กำหนด คือไปยื่นคำขอรังวัดเพื่อออกโฉนดที่สำนักงานที่ดินท้องที่ที่ที่ดินของเราตั้งอยู่ หรืออาจไปยื่นคำขอรังวัดออกโฉนด ที่ศูนย์เดินรังวัดออกโฉนดประจำจังหวัดหรือเขตได้เลยครับ แต่ที่ทราบมาค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าออกโฉนดแบบทั้งจังหวัดซึ่งหลักเกณฑ์จะเหมือนกัน คือต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้ครอบครองที่ดินและทำประโยชน์ในที่ดินที่จะขอออกโฉนดจริงเมื่อยื่นคำขอแล้ว จะมีการส่งหนังสือให้แก่เจ้าของที่ดินข้างเคียง ให้ไปทำการระวังชี้แนวเขต
เมื่อเราทำการนำเจ้าพนักงานรังวัดไปชี้แนวเขตแล้ว หากไม่มีผู้ใดคัดค้าน และที่ดินที่เราไปขอนั้น อาจออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้ตามประมวลกฎหมายนี้ คือไม่เป็นที่สาธารณะ ที่หลวง เขตป่าสงวน เป็นต้น ทางราชการก็จะออกโฉนดให้
แต่หากมีการคัดค้าน ทางที่ดินจะระงับการออกโฉนดไว้ก่อน และแจ้งให้ผู้ขอออกโฉนดและผู้คัดค้านไปใช้สิทธิต่ิอสู้เรื่องสิทธิครอบครองต่อศาลยุติธรรม ภายใน ๖๐ วันนับแต่ทราบเรื่องการคัดค้าน หากศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งประการใด ก็ดำเนินการไปตามนั้น
ตามมาตรา ๕๙ ตรี แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
ข้อ ๘ ในการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ถ้าปรากฏว่า
ที่ดินมีอาณาเขต ระยะของแนวเขต และที่ดินข้างเคียงทุกด้านถูกต้องตรงกับหลักฐานการแจ้งการ
ครอบครองตามมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ เชื่อได้
ว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน แต่เนื้อที่ที่คำนวณได้แตกต่างไปจากเนื้อที่ตามหลักฐานการแจ้งการ
ครอบครองดังกล่าว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เท่า
จำนวนเนื้อที่ที่ได้ทำประโยชน์แล้ว แต่ไม่เกินเนื้อที่ที่คำนวณได้
ในกรณีที่ระยะของแนวเขตที่ดินผิดพลาดคลาดเคลื่อนให้พนักงานเจ้าหน้าที่
ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เท่าจำนวนเนื้อที่ที่ได้ทำประโยชน์แล้วเมื่อผู้มีสิทธิ
ในที่ดินข้างเคียงได้ลงชื่อรับรองแนวเขตไว้เป็นการถูกต้องครบถ้วนทุกด้าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น