วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2553

ระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๓๒)

ว่าด้วยเงื่อนไขการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์


------------------
     อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๐  แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน  ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ) .. ๒๕๒๖  มาตรา ๕๘ ทวิ  
วรรคสี่  แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน  ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล
กฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ) .. ๒๕๒๘  และมาตรา ๕๙ ทวิ วรรคหนึ่ง  และมาตรา ๕๙ ตรี  
แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ  ฉบับที่ ๙๖  ลงวันที่  
กุมภาพันธ์ .. ๒๕๑๕  คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติวางระเบียบไว้ดังต่อไปนี้

ข้อ   ระเบียบนี้เรียกว่า "ระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ฉบับที่ 
๑๒ (.. ๒๕๓๒) ว่าด้วยเงื่อนไขการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์"

ข้อ   ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ   ให้ยกเลิก
(ระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ฉบับที่ (.. ๒๕๑๕)  
ว่าด้วยหลักเกณฑ์  วิธีการ  และเงื่อนไขการออกโฉนดที่ดินและออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์
(ระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ฉบับที่ (.. ๒๕๑๕)  
ว่าด้วยหลักเกณฑ์  วิธีการ  และเงื่อนไขการออกโฉนดที่ดินและออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์
(ระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ฉบับที่ (.. ๒๕๒๔)  
ว่าด้วยหลักเกณฑ์  วิธีการ  และเงื่อนไขการออกโฉนดที่ดินและออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์

ข้อ   การออกโฉนดที่ดินให้กระทำได้ในบริเวณที่ดินที่ได้สร้างระวางแผนที่เพื่อ
การออกโฉนดที่ดินไว้แล้ว  ในบริเวณที่ดินนอกจากนี้ให้ออกเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์  
เว้นแต่อธิบดีกรมที่ดินเห็นเป็นการสมควร  ให้ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในบริเวณที่ดิน
ที่ได้สร้างระวางแผนที่ไว้แล้วไปพลางก่อนได้

                  หมวด
            การอนุมัติให้ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
                ตามมาตรา ๕๘ ทวิ วรรคสี่ และมาตรา ๕๙ ทวิ วรรคหนึ่ง
                แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน

ข้อ   ผู้ว่าราชการจังหวัดจะอนุมัติให้ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำ
ประโยชน์รายใดเกินห้าสิบไร่ได้ต่อเมื่อผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมาย
ได้ตรวจสอบการทำประโยชน์แล้วปรากฏว่า
        (ผู้ครอบครองได้ทำประโยชน์หรืออำนวยการทำประโยชน์ในที่ดินนั้น
ด้วยตนเอง และ
        (สภาพการทำประโยชน์ในที่ดินนั้นเป็นหลักฐานมั่นคงและมีผลผลิต
อันเป็นประโยชน์ในทางเศรษฐกิจ

ข้อ   ในกรณีที่ปรากฏว่าเนื้อที่ที่ทำประโยชน์ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามข้อ  
เกินห้าสิบไร่  ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เท่าจำนวน
เนื้อที่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งอนุมัติ
ในกรณีที่ปรากฏว่าเนื้อที่ที่ทำประโยชน์ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามข้อ   ไม่เกิน
ห้าสิบไร่  ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งไม่อนุมัติ  ในกรณีเช่นนี้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนด
ที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้เท่าจำนวนเนื้อที่ที่ได้ทำประโยชน์แล้วตามกฎกระทรวง 
ฉบับที่ (.. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน .
๒๔๙๗  แต่ต้องไม่เกินห้าสิบไร่

ข้อ   พนักงานเจ้าหน้าที่จะออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
ให้แก่บุคคลตามมาตรา ๕๙ ทวิ วรรคหนึ่ง  เป็นการเฉพาะรายได้  ถ้ามีความจำเป็นดังต่อไปนี้
(ที่ดินนั้นถูกเวนคืนตามกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์
(ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินจะโอนที่ดินนั้นให้แก่ทบวงการเมือง  
องค์การของรัฐบาลตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาล หรือรัฐวิสาหกิจที่จัดตั้งขึ้น
โดยพระราชบัญญัติ
(มีความจำเป็นอย่างอื่นโดยได้รับอนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัด

                  หมวด
                    การออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
              ตามมาตรา ๕๙ ตรี  แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน

ข้อ   ในการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ถ้าปรากฏว่า
ที่ดินมีอาณาเขต ระยะของแนวเขต  และที่ดินข้างเคียงทุกด้านถูกต้องตรงกับหลักฐานการแจ้งการ
ครอบครองตามมาตรา  แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน .. ๒๔๙๗  เชื่อได้
ว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน  แต่เนื้อที่ที่คำนวณได้แตกต่างไปจากเนื้อที่ตามหลักฐานการแจ้งการ
ครอบครองดังกล่าว  ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เท่า
จำนวนเนื้อที่ที่ได้ทำประโยชน์แล้ว  แต่ไม่เกินเนื้อที่ที่คำนวณได้
ในกรณีที่ระยะของแนวเขตที่ดินผิดพลาดคลาดเคลื่อนให้พนักงานเจ้าหน้าที่
ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เท่าจำนวนเนื้อที่ที่ได้ทำประโยชน์แล้วเมื่อผู้มีสิทธิ
ในที่ดินข้างเคียงได้ลงชื่อรับรองแนวเขตไว้เป็นการถูกต้องครบถ้วนทุกด้าน

ข้อ   การรับรองแนวเขตของผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงตามข้อ วรรคสอง 
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งเป็นหนังสือซึ่งมีข้อความด้วยว่า ถ้าผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงไม่มาหรือ
มาแต่ไม่ยอมลงชื่อรับรองแนวเขตโดยไม่คัดค้านการรังวัด  เมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันทำ
การรังวัด  พนักงานเจ้าหน้าที่จะได้ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์โดยไม่ต้อง
มีการรับรองแนวเขต  ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปยังผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงตามที่อยู่ที่
เคยติดต่อ  หรือตามที่อยู่ที่ผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงนั้นได้แจ้งเป็นหนังสือไว้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่  
เพื่อให้มารับรองแนวเขตหรือคัดค้านการรังวัดและให้อยู่ในบังคับแห่งเงื่อนไข  ดังต่อไปนี้
(ในกรณีที่ผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงได้รับหนังสือจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ให้มาระวังแนวเขตแล้ว  แต่ไม่มาหรือมาแต่ไม่ยอมลงชื่อรับรองแนวเขตโดยไม่คัดค้านการรังวัด  
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เท่าจำนวนเนื้อที่ที่ได้ทำ
ประโยชน์แล้ว  โดยไม่ต้องมีการรับรองแนวเขต  เมื่อพ้นกำหนดเวลาสามสิบวันนับแต่วันทำการ
รังวัด
(ในกรณีที่ไม่อาจติดต่อผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงให้มาระวังแนวเขต
ได้  ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปิดประกาศแจ้งให้ผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงนั้นมาลงชื่อรับรองแนวเขต
หรือคัดค้านการรังวัดไว้ในที่เปิดเผย สำนักงานที่ดินจังหวัดหรือสำนักงานที่ดินสาขา  สำนักงาน
เขตหรือที่ว่าการอำเภอหรือกิ่งอำเภอ  ที่ทำการกำนัน  ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน  และบริเวณที่ดินของผู้
มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงแห่งละหนึ่งฉบับ ในกรณีที่ดินอยู่ในเขตเทศบาลให้ปิด  สำนักงานเทศ
บาลอีกหนึ่งฉบับด้วย ถ้าผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงไม่มาติดต่อหรือคัดค้านประการใดภายในสามสิบ
วันนับแต่วันปิดประกาศ  ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
เท่าจำนวนเนื้อที่ที่ได้ทำประโยชน์แล้ว  โดยไม่ต้องมีการรับรองแนวเขต

ข้อ ๑๐  ในกรณีที่ที่ดินนั้นมีด้านหนึ่งด้านใดหรือหลายด้านจดที่ป่าหรือที่รกร้าง
ว่างเปล่าและระยะที่วัดได้เกินกว่าระยะที่ปรากฏในหลักฐานการแจ้งการครอบครองให้ถือระยะที่
ปรากฏในหลักฐานการแจ้งการครอบครองเป็นหลักในการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการ
ทำประโยชน์

ให้ไว้ วันที่ ตุลาคม .. ๒๕๓๒
  พลตำรวจเอก ประมาณ อดิเรกสาร 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
        ประธานคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ

[รก.๒๕๓๒/๑๗๔/๗พ/๑๒ ตุลาคม ๒๕๓๒]

พรพิมล/แก้ไข
.  ๒๕๔๕


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น