โครงการเร่งรัดการออก
โฉนดที ดินให้ครอบคลุม ทั่วประเทศ มหาดไทย กรมทีดิน
เป้าประสงค์ และแนวทางการตรวจติดตาม
๑.๑ เพื่อลดความเสียงตามหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิ จการบ้านเมืองทีดีที อาจส่งผลกระทบต่อแผนงานโครงการภายใต้นโยบายทีดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ งแวดล้อม โดยการตรวจราชการ ของผู้ตรวจราชการสํานักนายกรัฐมนตรี และข้อเสนอแนะให้แก่หน่วยงานที รับผิดชอบนําไปปฏิบัติเพือจัดการ กับความเสียงทีอาจส่งผลกระทบต่อนโยบายทีดิน ทรัพยากรธร รมชาติและสิงแวดล้อม อันเนืองมาจากการ ดําเนินการทีไม่สอดคล้องกันให้ลดลงในระดับทียอมรับได้
๑.๒ เพื่อให้มีความเชือโยงสอดคล้อง และมีการบูรณาการแนวทางการดําเนินงาน ร่วมกันและผลักดันให้แผนงานโครงการภายใต้นโยบายทีดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีการบูรณาการแนวทางการดําเนินงานร่วมกันและนําไปสู่ความสัมฤทธิผลของนโยบาย
วันที่ 30 มิถุนายน 2553
เรียน นางรังสี พันธุมจินดา
ผู้ตรวจราชการสํานักนายกรัฐมนตรีเขต7
เรื่อง การร้องเรียนของประชาชนกรณีการขอออกโฉนด
(ซึ้งผมได้นําเสนอเอกสารการร้องเรียน1ชุดให้ก่อนหน้านีี้เเล้ว)
กระผม นายชวนะ เกียรติชวนะเสวี ในฐานะที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการสํานักนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ภาคประชาชน ติดภาระกิจที่กรุงเทพ จึงไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้จึงขอนําเสนอข้อมูลของประชาชนจังหวัดภูเก็ตส ซึ่งกระผมได้เปิดช่องทางให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการให้ข้อมูลเป็น 2 เเนวทาง คือ 1 ตู้ปณ88 2 ทาง email chawanak@gmail.com เเละเครือข่ายประชาชนในพี้นที่ หลังจากประเทศผ่านพ้นวิกฤติจากเหตุการณ์ในกรุงเทพมหานครทําให้ทั่วประเทศประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจรวมถึงจังหวัดภูเก็ตวันนี้นายกได้มีโครงการไทยเข้มเเข็งลงมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาเหมือนเดิมเเละใช้เเนวทางการพัฒนาเเบบยั่งยืนลงมาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวเเละการลงทุน ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งคนไทยเเละชาวต่างชาติ ที่เข้ามาลงทุนในพี้นที่จังหวัดภูเก็ต เป็นจํานวนมากในเเต่ละปีเเละปัญหาเรี่องที่ดินก็จะมีปัญหาทั้งเรี่องการบุกรุกที่สาธรณะเเละการออกเอกสารสิทธิ์ทําให้นักลงทุนที่สนใจจะมาลงทุน ไม่มั่นใจเเละได้ย้ายฐานการลงทุนไปประเทศอื่นทําให้ประเทศขาดรายได้เป็นจํานวนไม่น้อยเเละกระทบไปสู่ส่วนอี่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ้งเป็นปัญหาที่ต้องเเก้ไขให้เป็นเเนวทางเดียวกันเช่นกรณีนายจรัญ หนูพู่ ประชาชนที่เป็นชาวสวนที่เจอปัญหาการขอออกโฉนดที่ดินเฉพาะรายที่จริงเเล้วคือปัญหาเดียวกันทั้งประเทศ กระผมได้ศีกษาข้อร้องเรียน ของที่เเปลงนี้
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปีพ.ศ.2550
มาตรา ๔ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคล ย่อมได้รับความคุ้มครอง
มาตรา ๕ ประชาชนชาวไทยไม่ว่าเหล่ากำเนิด เพศ หรือศาสนาใด ย่อมอยู่ในความคุ้มครองแห่งรัฐธรรมนูญนี้เสมอกัน
มาตรา ๒๖ การใช้อำนาจโดยองค์กรของรัฐทุกองค์กร ต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สิทธิและเสรีภาพ ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้
มาตรา ๓๐ บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกันชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน
มาตรา ๓๕ สิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง ตลอดจนความเป็นอยู่ส่วนตัวย่อมได้รับความคุ้มครองการกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความหรือภาพไม่ว่าด้วยวิธีใดไปยังสาธารณชน อันเป็นการละเมิดหรือกระทบถึงสิทธิของบุคคลในครอบครัวเกียรติยศ ชื่อเสียง หรือความเป็นอยู่ส่วนตัวจะกระทำมิได้ เว้นแต่กรณีที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับความคุ้มครองจากการแสวงประโยชน์โดยมิชอบจากข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ
คําพูดของประชาชนที่ผมจะถามใครเพื่อตอบข้อความต่อไปนี้
ข้าพเจ้าด้วยความน้อยเนื้อตํ่าใจในวาสนาที่ฝันว่าจะได้มีโฉนดจากที่ดินที่ทํามาหากินมาด้วยความสุตริต
เอกสารที่ผมได้รับ เเละได้ส่งมอบให้ผู้ตรวจ
1 ประกาศครบ 30วันไม่มีผู้คัดค้าน
2 ที่สําคัญคณะกรรมการตามกฎกระทรวงฉบับที่43มีมติออกโฉนดให้ผู้ขอได้
3 ที่ดินข้างเคียงรับรองเเนวเขตครบทุกด้าน ทั้ง3ขั้นตอนที่กล่าวมาข้างต้นจะมีเจ้าพนักงานที่ดินมีส่วนร่วมทุกขั้นตอนของกฎหมายเเละกลับมามองคําสั่งของที่ดินจังหวัดภูเก็ตหลังจากผ่านขั้นตอนของกฎหมายที่กล่าวมาทั้ง3ขั้นตอนข้างต้น
เเนวทางที่ดินจังหวัดภูเก็ต
ที่ดินจังหวัดภูเก็ตได้มีหนังสือเเจ้งนาย จรัญ หนูพู่ โดยมีใจความว่าที่ดินจังหวัดภูเก็ต มีความห็นว่าสค1 จดที่รกร้างว่างเปล่าก็ต้องถือระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่ 12 ข้อ 10ในกรณีที่ดินนั้นมีด้านหนึ่งด้านใดหรือหลายด้านจดที่ป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่าเเละระยะที่วัดได้เกินกว่าระยะที่ปรากฎในหลักฐานเเจงการครอบครองให้ถือระยะที่ปรากฎในหลักฐานการเเจ้งการครอบครองเป็นหลักในการออกโฉนด
ซึ้งขัดเเย้งกับ 3ขั้นตอนที่ผ่านขบวนการขั้นตอนที่ได้ปฎิบัติตามประมวลกฎหมายที่ดินของเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ในขั้นตอนนั้นเสร็จสิ้นเเล้ว
เเนวทางจังหวัดสุราษฎ์ธานี จากกรณีปัญหาที่
นําข้อเท็จจริงเป็นการเพิ่มจากการรังวัดตามแนวเขตที่ดิน
นําข้อเท็จจริงเป็นการเพิ่มจากการรังวัดตามแนวเขตที่ดิน
ซึ่งตามแนวเขตในหนังสือ ส.ค.1 ได้แสดงลักษณะผังที่ดินประกอบไว้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่การรังวัดเป็นโฉนดที่ดินต้องใช้วิธีการตรรกะ (การคำนวณกราฟ) ปักหมุดตามหลักเขตฉะนั้นรูปที่ดินในโฉนดที่ออกมาจะเปลี่ยนไปตามแนวที่วัดได้และส่วนที่เพิ่มมา ต้องเป็นไปตามเขตที่ดินดังกล่าว ด้านนายจำลองโพธิ์เพชร หัวหน้าสำนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย เปิดเผยว่า ที่ดินงอกกับที่ดินเพิ่มไม่เหมือนกัน ข้อเท็จจริงเป็นการเพิ่มจากการรังวัดตามแนวเขตที่ดินซึ่งตามแนวเขตในหนังสือ ส.ค.1 ได้แสดงลักษณะผังที่ดินประกอบไว้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่การรังวัดเป็นโฉนดที่ดินต้องใช้วิธีการตรรกะ(การคำนวณกราฟ) ปักหมุดตามหลักเขต ฉะนั้นรูปที่ดินในโฉนดที่ออกมาจะเปลี่ยนไปตามแนวที่วัดได้และส่วนที่เพิ่มมา ต้องเป็นไปตามเขตที่ดินดังกล่าว นายจำลองกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่การรังวัดโฉนดเป็นไปได้ทั้งเนื้อที่ลดหรือเพิ่มขึ้นจากเดิม แต่ต้องเป็นไปตามการรังวัดของเจ้าหน้าที่และต้องได้รับคำยินยอมจากเจ้าของที่ดินข้างเคียงเซ็นชื่อรับทราบยอมรับในแนวเขตดังกล่าว อย่าลืมว่าที่ดินบนเกาะสมุยมีราคาแพงคงไม่มีใครยอมให้คนอื่นมาบุกรุกกินเนื้อที่ของตนไปแน่ และหากเจ้าของที่ข้างเคียงไม่ยอมเซ็นชื่อก็ออกโฉนดให้ผู้ขอไม่ได้
จะเห็นได้ว่าใช้วิธีปฎิบัติเเตกต่างกัน
จากกรณีปัญหา ที่ดินจังหวัดภูเก็ต ใขัระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินเเห่งชาติฉบับที่ 12 ข้อ 10 ในกรณีที่ดินนั้นมีด้านหนึ่งด้านใดหรือหลายด้านจดที่ป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่าเเละระยะที่วัดได้เกินกว่าระยะที่ปรากฎในหลักฐานเเจ้งการครอบครองให้ถือระยะที่ปรากฎในหลักฐานการเเจ้งการครอบครองเป็นหลักในการออกโฉนด ยึดระยะในสค1 เป็นหลักในการพิจรณาออกโฉนด ทั้งที่ข้อเท็จจริงที่ทั้ฝที่ข้อเท็จจริงสต1 ผ่านมา
ถ้าในสค1ระบุจดที่ว่างเปล่า จะไม่นําขั้นตอนที่ปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับรองมาเเล้ว เช่น 1 ประกาศครบ 30วันไม่มีผู้คัดค้าน
2 ที่สําคัญคณะกรรมการตามกฎกระทรวงฉบับที่43มีมติออกโฉนดให้ผู้ขอได้
3 ที่ดินข้างเคียงรับรองเเนวเขตครบทุกด้าน