วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

คำถามเลขที่ : 5211-065037 เรื่อง การออกโฉนด

เเนวทางกรมที่ดินจากกระดานถามตอบของกรมที่ดิน
1สำนักมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญกรมที่ดิน
คำถามเลขที่ : 5211-065037 เรื่อง  การออกโฉนด
สค1ทิศใต้เขียนว่าติดที่รกร้าง ด้านอื่นมีการครอบครองหมดเเล้ว ผ่านมา20ปีจึงนําสค1มาขอออกโฉนด เเต่ปัจุบันด้านทิศใต้ที่ระบุในสคว่าที่รกร้างได้มีการครอบครองเเล้วสรุปว่ามีการครอบครองทุกด้าน การพิจรณาจะใช้ข้อมูลใน สค ที่ระบุว่ารกร้าง หรือว่า ใข้ข้อเท็จจรืงในปัจุบันว่ามีการครอบครอง ในการพิจรณาในการออกโฉนด ขอบคุณครับ
มนตรี
คำตอบ  ตามระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ กำหนดไว้ว่า ถ้าปรากฏว่าที่ดินที่มีอาณาเขต ระยะของแนวเขต และที่ดินข้างเคียงทุกด้านถูกต้องตรงกับหลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.๑) เชื่อได้ว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน แต่เนื้อที่ที่คำนวณได้แตกต่างไปจากเนื้อที่ตามหลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.๑) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้เท่าจำนวนเนื้อที่ที่ได้ทำประโยชน์แล้วแต่ไม่เกินเนื้อที่ที่คำนวณได้แต่ถ้าในกรณีที่ระยะของแนวเขตที่ดินผิดพลาดคลาดเคลื่อนให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เท่าจำนวนเนื้อที่ที่ได้ทำประโยชน์แล้ว เมื่อผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงได้ลงชื่อรับรองแนวเขตไว้เป็นการถูกต้องครบถ้วนทุกด้าน
และระยะที่วัดได้เกินกว่าระยะที่ปรากฏในหลักฐานการแจ้งการครอบครองให้ถือระยะที่ปรากฏในหลักฐานการแจ้งการครอบครองเป็นหลักในการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
กรณีตามคำถามเป็นกรณีข้างเคียงเปลี่ยนแปลงจากหลักฐานที่ดินเดิม
จะต้องดำเนินการงานเจ้าหน้าพนักทสอบสวนและบันทึกถ้อยคำกรณีข้างเคียงเปลี่ยนแปลง
โดยการสอบสวนเจ้าของที่ดินเจ้าของที่ดินข้างเคียงและผู้ปกครองท้องที่หากสามารถตรวจสอบและยืนยันได้ว่าที่ดินแปลงที่ผู้ขอนำรังวัดเป็นที่ดินตรงตามหลักฐานที่ดินเดิมจริงและไม่มีการสมยอมแนวเขตกับที่ดินแปลงข้างเคียงแในกรณีที่ที่ดินนั้นมีด้านหนึ่งด้านใดหรือหลายด้านจดที่ป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่าละไม่ได้นำที่ดินนอกหลักฐานมารวมรังวัดด้วยก็สามารถออกโฉนดที่ดินตามหลักฐานดังกล่าวได้ซึ่งข้อมูลที่ใช้ในการออกโฉนดที่ดินเกี่ยวกับการแจ้งข้างเคียงนั้นจะใช้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน
เจ้าของที่ดินข้างเคียงและผู้ปกครองท้องที่หากสามารถตรวจสอบและยืนยันได้ว่าที่ดินแปลงที่ผู้ขอนำรังวัดเป็นที่ดินตรงตามหลักฐานที่ดินเดิมจริงและไม่มีการสมยอมแนวเขตกับที่ดินแปลงข้างเคียงแในกรณีที่ที่ดินนั้นมีด้านหนึ่งด้านใดหรือหลายด้านจดที่ป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่าละไม่ได้นำที่ดินนอกหลักฐานมารวมรังวัดด้วยก็สามารถออกโฉนดที่ดินตามหลักฐานดังกล่าวได้ซึ่งข้อมูลที่ใช้ในการออกโฉนดที่ดินเกี่ยวกับการแจ้งข้างเคียงนั้นจะใช้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน
สำนักมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญ
สำนักงานเลขานุการกรม โทร.0-2141-5594
16 พฤศจิกายน 2552 08:48 น
2ที่ดินจังกวัดกระบี่จากกระดานถามตอบ
คําถาม  ถ้าในสค1มีด้านทิศเหนือจดที่ว่างเปล่า เเต่ปัจุบันมีการครอบครองรับรองเเนวเขตครบทุกด้านจะ ใช้เเนวทาง ในการออกโฉนดโดยยึดตามสค1หรือ ข้อเท็จจริงค่ะ เเม่หนูฝากให้เพื่อนไปทําให้ สค1มี 7ไร่นําสํารวจได้9ไร่ เขาบอกได้7ไร่เพราะสค จดที่ว่างเปล่า หนูเรียนอยู่กท เลยกลัวเเม่ถูกเพื่อนหลอกค่ะ
ลูกชาวสวน 124.121.174.* [ วันศุกร์ ที่ 1 มกราคม 2553 เวลา 16:23 น. ]
ตอบ คุณลูกชาวสวน กรณีเช่นนี้จะมีการตรวจสอบตามข้อเท็จจริงและสภาพการทำประโยชน์ ในที่ดิน โดยจะสอบสวนเจ้าของที่ดินข้างเคียงและผู้ปกครองท้องที่เป็นพยาน ประกอบการพิจารณา
โดยคุณ ฝ่ายอำนวยการ สำนักงานที่ดินจังหวัดกระบี่ 113.53.10.* [ วันอังคาร ที่ 5 มกราคม 2553 เวลา 08:49 น
3ที่ดินจังหวัดเลยจากกระดานถามตอบ
คําถาม ผมได้ยื่นขอออกโฉนดจาก สค 1 ตามที่รัฐประกาศ ไว้ที่ สนง.ที่ดิน จ.เลย แล้วมีช่างมาสำสวจพื้นที่ของผม แล้วบอกว่าไม่สามารถออกโฉนดให้ได้ เนื่องจากมันไม่ตรงระวางไม่ตรงจุด เป็น สค1 บิน ไปซะอย่างงั้น มันจะบินมาจากไหนละครับ ก็เจ้าของเดิมเขาก็มีชีวิตอยู่ จำนวนพื้นที่ก็ 2 ไร่เท่ากัน เจ้าของที่ดินก็คนเดียวกัน สภาพพื้นที่มันเปลี่ยนไปตามอายุของมัน ตั้ง 50 กว่าปีแล้ว กลายเป็นถนนบ้างกลายเป็นบ้าน เป็นสวนบ้าง แล้ว สค1 ที่ผมถืออยู่นี่ก็ไม่มีระยะบอกเขตด้วยว่าทิศใหนระยะเท่าใดมีหมุดอยู่ที่ใหน จนท.ท่านนั้นฟันธงเลยว่าออกโฉนดให้ไม่ได้ แถมยังบอกว่าผมจะติดคุกอีก จะอะไรกันนักกันหนาครับท่าน ผมมาขอออกโฉนดนะครับท่าน ไม่ใช่มาขอติดคุก และยังบอกกับผมต่อว่าให้รีบขายใบ สค1.ไปซะ จะได้ไม่เสียสิทธิ์ ยังงี้ก็มีด้วย ผมขอถามตรงๆนะครับว่าเมื่อเป็นเช่นนี้จะให้ผมดำเนินการอย่างใดต่อไป จะให้ผมไปฟ้องที่ศาลใหน ภายในกี่วัน ผมจะได้ไม่ถูกรอนสิทธิ์ครับ.
คนเมืองเลย  118.175.122.* [ 17 ธ.ค. 2552 เวลา 05:08 ]
ตอบคําถาม
ตามประกาศของกรมที่ดินให้ผู้มี หลักฐาน ส.ค.1 ไปยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ภายใน 6 กุมภาพันธ์ 2553 หากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวจะต้องมีคำพิพากษาของศาลมาเพื่อประกอบการออกเอกสารสิทธิ
ในการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ถ้าเป็นการออกเฉพาะรายตามมาตรา 59 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินผู้ขอต้องไปยื่นคำขอ ณ สำนักงานจังหวัดหรือสาขาที่ที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่ ในการยื่นคำขอดังกล่าวผู้ขอต้องชี้ตำแหน่งที่ดินได้ว่าที่ดินที่จะขอออกโฉนดที่ดินอยู่ระวางใด(การที่จะรู้ได้ว่าที่ดินแปลงใดอยู่ระวางใดโดยนำโฉนดที่ดินข้างเคียงมาประกอบ)
หรือโดยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินตามมาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน โดยจะมีประกาศกำหนดพื้นที่ที่จะทำการเดินสำรวจ เมื่อประกาศแล้วจะแจ้งไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้านท้องที่ที่จะทำการเดินสำรวจ เจ้าของที่ดินที่มีหลักฐาน ส.ค.1 ก็สามารถยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ทำการเดินสำรวจในพื้นที่ได้เลย
ในการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ถ้าปรากฏว่าที่ดินมีอาณาเขต ระยะแนวเขต และที่ดินข้างเคียงทุกด้านถูกต้องตรงกับหลักฐานการแจ้ง ส.ค.1 และเชื่อได้ว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน แต่เนื้อที่ที่คำนวณได้แตกต่างไปจากเนื้อที่ตาม ส.ค.1 จะออกโฉนดที่ดินให้ตามเนื้อที่ที่ครอบครองทำประโยชน์แล้ว
ในกรณีที่ระยะของแนวเขตผิดพลาดคลาดเคลื่อน จะออกโฉนดที่ดินให้ตามจำนวนเนื้อที่ที่ได้ทำประโยชน์แล้ว ก็ต่อเมื่อผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงได้ลงชื่อรับรองแนวเขตครบทุกด้าน
ในกรณีของท่านให้ไปยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ณ สำนักงานที่ดินท้องที่ไว้ก่อนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2553 เพื่อจะได้ไม่ต้องไปใช้สิทธิทางศาล
หากท่านสงสัยหรือมีข้อมูลเพิ่มเติมให้ท่านไปพบเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเลย หรือสอบถามได้ที่กลุ่มงานวิชาการที่ดิน เบอร์โทรศัพท์ 0-4281-1560 ต่อ 18
กว.เลย 125.26.211.* [ 21 ธ.ค. 2552 เวลา 22:22 ] ความเห็นที่1/#0004

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น